เรื่องจริงจากปาก…กว่าจะเป็นเด็ก “เป่ยต้า” จนได้ทุน ไม่ได้ง่ายนะ ‼️


👉🏻👉🏻ใครสนใจเรื่องเรียนต่อประเทศจีนกับมหาวิทยาลัย TOP U อย่าพลาดกับตงฮั้วเดลี่ จะนำสรุปสัมภาษณ์ของคุณโต้ ทายกร กยาวัฒนกิจ ศิษย์เก่าม.เป่ยต้า กับเพจ”ลงทุนมัม” กว่าจะเป็นเด็กท็อปยู ต้องผ่านอะไรมากันบ้าง ติดตามกันค่ะ

การเริ่มต้นไปเรียนที่ประเทศจีนของคุณโต้ เริ่มสมัยเรียนม. 3 ที่เพื่อนสนิทเริ่มแยกย้ายไปเรียนต่อที่อังกฤษ อเมริกา คุณโต้ก็อยากไปบ้าง ทางครอบครัวได้เสนอให้ไปเรียนต่อที่ประเทศจีน
……………..
การเรียนกับเพื่อนคนจีนโรงเรียนจีนตอนม.3 จะต้องรีบทำความคุ้นเคยเรื่องภาษาอย่างหนัก เพราะเรียนเป็นภาษาจีน คุณโต้ใช้เวลา 3 เดือนในการท่องศัพท์วันละ 100 คำ รวมถึงภาษาจีนที่ใช้ในวิชาอื่นด้วย เช่น ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น ในระดับม.ปลาย เลือกสายเรียน 2 แผน คือ แผนวิทย์และแผนศิลป์ ซึ่งคุณโต้เรียนแผนวิทย์ บางคนอาจมองว่าช่วงเวลานี้ยังเด็ก แต่คุณโต้คิดว่าเป็นเวลาที่ดี เพราะในช่วงม.3 จะได้เรียนภาษาจีนให้เข้าใจก่อน พอขึ้นม.ปลายจะมีเวลาให้กับวิชาการอื่นๆ ที่ต้องเรียนเป็นภาษาจีน และมีเวลาเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เต็มที่
……………..
คุณโต้มุ่งมั่นที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือมหาวิทยาลัยเป่ยต้า วิธีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจีนของชาวต่างชาติ ก็คือ สมัครสอบกับมหาวิทยาลัยที่สนใจโดยตรง มหาวิทยาลัยจะออกข้อสอบเอง อยากเข้าหลายมหาวิทยาลัยก็ต้องสอบหลายรอบ ข้อสอบจะแบ่งเป็นแผนวิทย์และแผนศิลป์ ซึ่งมีผลกับคณะที่สามารถเลือกเรียนด้วย สำหรับคนที่เรียนแผนวิทย์ในระดับมัธยม สามารถเลือกสอบได้ทั้งสองแผน แต่สำหรับคนที่เรียนมัธยมในแผนศิลป์ก็จะสอบเข้าคณะในแผนศิลป์เท่านั้น ผู้สอบเลือกคณะที่สนใจเรียง 5 อันดับ เรียงคะแนนตามคณะที่เลือกเรียนไว้ คุณโต้อยากเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์และการเงิน ถือเป็นแผนวิทย์ หลังจากสอบผ่านแล้วก็จะมีสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาจีนด้วย คำถามเกี่ยวกับความรู้รอบตัว
……………..
มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ การสอบเข้าที่ต้องแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง เป็นมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งรวมของนักเรียนหัวกระทิในประเทศ คณะเศรษฐศาสตร์และการเงินในรุ่นที่คุณโต้เรียน มีเพียง 180 คน ทั้งเพื่อนรอบตัวต่างก็เป็นคนเก่ง มีทั้งเป็นอันดับ 1 ของเมืองต่างๆ เป็นตัวแทนแข่งขันวิชาการระดับประเทศ เป็นต้น ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ ซึ่งการเรียนร่วมกับเพื่อนที่เป็นหัวกระทิใจต้องแข็งมาก ถ้าใจไม่แข็งอาจจะเสียความมั่นใจแล้วท้อได้ การสอบแข่งเข้าเรียนว่ายากแล้ว แต่เรียนให้จบยากกว่า 10 เท่า เป็นเรื่องยากมากที่จะต้องแข่งขันกับคนจีน คุณโต้ใช้เวลากับการอ่านหนังสือเยอะมาก ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนในแต่ละวิชาด้วย ความพยายามของคุณโต้ทำให้ได้รับทุนเรียนดีสำหรับชาวต่างชาติจากรัฐบาลปักกิ่งแบบเต็มจำนวน ไม่เสียค่าเรียนและได้ค่าใช้จ่ายบางส่วน
……………..
การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก็จะมีทั้งการสอนแบบบรรยายและแบบอภิปราย บางวิชาจะเป็นบรรยายตอนต้นและอภิปรายกันตอนท้าย อาจารย์สอนก็มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ หนังสือเรียนก็มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ อยู่ที่อาจารย์และวิชาที่สอน ส่วนนักศึกษาก็ส่วนมากก็จะช่วยกันเรียน ช่วยกันติว โดยเฉพาะคุณโต้ที่เป็นชาวต่างชาติ เพื่อนๆ ก็จะช่วยสอน หรือบางคนก็ซุ่มอ่านหนังสือเองก็มี การตัดเกรดก็เป็นแบบอิงกลุ่ม ซึ่งยากมาก
……………..
การเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดี มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ๆ ได้เข้าฟังผู้มีชื่อเสียงที่เข้ามาบรรยายในมหาวิทยาลัย มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาสอน รวมทั้งมีบริษัทขั้นนำของจีนเข้ามาเปิดรับสมัครงานตั้งแต่เรียนปีสุดท้าย สิ่งที่ได้กลับมาอีกอย่างคือ ความถึก ความอดทน ไม่ย่อท้อและสู้มาก เพราะระหว่างเรียนลำบากมาก ถ้าตั้งใจจะทำอะไรอย่างจริงจังก็จะผ่านไปได้ ตอนมองย้อนกลับไป รู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ทำลงไป
……………..
สำหรับชาวต่างชาติที่เข้าไปเรียนร่วมกับคนจีนในมหาวิทยาลัยปักกิ่งจะเป็นคนเอเชีย มากที่สุดคือคนเกาหลี รองลงมาเป็นฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ สำหรับคนไทยที่เข้าเรียนจะมี 80-100 คน ส่วนมากจะเรียนภาษาจีนกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นอกจากเรื่องเรียนแล้ว ในมหาวิทยาลัยก็มีกิจกรรมต่างๆ มีคลับชมรมให้เข้าร่วม ทั้งคลับดูหนัง สกี ฟุตบอล ซึ่งนักศึกษาจีนก็จะใช้เวลาทำกิจกรรมในชมรม ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่คุณโต้ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือซะส่วนใหญ่ ไม่ได้เข้าชมรมอะไร แต่ก็ออกไปเข้าสังคม สังสรรค์กับเพื่อนในวันเสาร์อาทิตย์
……………..
สำหรับใครที่สนใจเรียนภาษาจีนในประเทศจีน ไม่ต้องเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ได้ ขอให้ได้ภาษาจีน เพราะคุณโต้มองว่า ภาษาจีนเป็นช่องทางที่สำคัญและจะอยู่ติดตัวเราไปตลอด หากใครที่ไม่รู้ภาษาจีน ก็มีหลักสูตร 5 ปี โดยปีแรกจะเรียนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ถ้าสอบผ่านถึงจะได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย หรือจะเป็นหลักสูตรอินเตอร์ก็ยื่นคะแนนตามที่กำหนดไปได้เลย จะเป็นห้องเรียนสำหรับชาวต่างชาติทั้งหมด ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก มีภาษาจีนนิดหน่อย แต่จะไม่ค่อยได้เจอคนจีน จะต้องเข้าทำความรู้จักกันเอง

Credit from : ลงทุนมัม

#ตงฮั้วเดลี่ #การศึกษาจีน #เด็กจีน #จบจีน

Press ESC to close