เมื่อเล่นเกมหมากรุกจีนไปได้สักระยะหนึ่ง จะเริ่มมองเห็นแนวทางทางเดินหมากของแต่ละฝั่ง รวมทั้งในบางครั้งอาจจะสามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้จากตำแหน่งของหมาก ตัวหมากที่ยังเหลืออยู่ได้
ฝั่งที่คาดการณ์ว่าตัวเองเสียเริ่ม เริ่มที่จะใกล้คำว่า “แพ้” เข้าไปมากขึ้นทุกที ผู้เล่นจะต้องพยายามรักษาแนวทางเกมไม่ให้เสียเปรียบมากกว่าเดิม พยายามให้เสียเปรียบน้อยลง และ “แก้เกม” ให้พลิกเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้อีกครั้ง
สิ่งสำคัญของ “การแก้เกม” คือ
1. ตั้งจิตให้ สงบ เมื่อจิตใจสงบนิ่งลงแล้ว สติจะเกิด พยายามตั้งสติ พิจารณาสถานการณ์ในกระดานหมากให้ละเอียด
2. ค้นหา สาเหตุ ที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ ถามตัวเองว่าตอนนี้เราพร้อมจะแก้เกมหรือไม่ ไม่ร้อนรนหรือรีบร้อนเดินจนทำให้สถานการณ์เกมแย่ไปมากกว่าเดิม
3. พยายามมองถึงโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นข้างหน้าในหลายๆ ทางเลือกทั้งฝั่งเราและฝั่งคู่ต่อสู้
4. อ่านเกมให้ออกเพื่อวางแผนในการเดินหมาก หรือรอจังหวะที่คู่ต่อสู้จะพลาดพลั้ง เปิดโอกาสที่ไม่เต็มใจให้ฝั่งเราได้ “แก้เกม” กลับมาได้นั่นเอง
การแก้เกมจะเกิดขึ้นได้ นอกจากสติแล้ว สิ่งสำคัญก็คือ “ใจ” มักเกิดขึ้นได้ ทุกจังหวะการเล่น บางครั้งอาจเกิดขึ้นช่วงต้นกระดาน ช่วงกลางกระดาน หรือ ช่วงท้ายกระดาน การเดินหมากรุกเป็นเกมกระดานสำหรับการฝึกการแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว หากเราตัดสินใจที่จะยอมแพ้ ล้มกระดานทิ้ง แน่นอนว่าโอกาสจะกลายเป็น 0% ในทันที ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะเดินหมากสักตัวเพื่อดิ้นรน แก้เกม หรือฝึกฝนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เลย
ตอนที่แอดได้ลองเล่นหมากรุกจีนครั้งแรก เกมเริ่มได้ไม่นานก็เสียหมากสำคัญๆ ในการบุกไปทั้งหมด เหมือนได้แต่รอความตายเท่านั้น ไม่เห็นโอกาสที่จะชนะเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยใจที่อยากจะสู้แล้วอยากจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วเกมนี้จะเป็นอย่างไร ก็พยายามยื้อเวลา หาทางที่จะรอด ยืดเกมไปได้หลายรอบ ทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกหงุดหงิดหรือรำคาญใจได้ ก็ถือว่าเป็นการสร้างความสำราญใจให้กับเราที่เป็นผู้แพ้ก็แล้วกัน+++
