ฉินสื่อหวงตี้หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ คือจักรพรรดิพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ของจีน พระองค์คือผู้รวบรวมแผ่นดินจีนให้กลายเป็นจักรวรรดิหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
แต่ท่ามกลางความยิ่งใหญ่นั้น จิ๋นซีฮ่องเต้กลับหวาดกลัวต่อสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นก็คือ ‘ความตาย’ พระองค์อยากจะเป็นอมตะและมีชีวิตอันนิจนิรันดร์
ด้วยเหตุนี้จิ๋นซีฮ่องเต้จึงสั่งให้คนออกตามหายาอายุวัฒนะหรืออะไรก็ตามที่ช่วยให้พระองค์เป็นอมตะได้ โดยหนึ่งในคนที่จิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ตามหายาอายุวัฒนะ ก็คือนักเล่นแร่แปรธาตุในราชสำนักนามว่า สวี่ฝู๋ (Xu Fu 徐福)
มีตำนานเล่าว่า บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล (Peng Lai) ในทะเลตะวันออกอันห่างไกล มีน้ำอมฤตที่จะทำให้องค์จักรพรรดิเป็นอมตะ จิ๋นซีฮ่องเต้เชื่อในตำนานนี้ พระองค์จึงบัญชาให้สวี่ฝู๋เดินทางไปเอาน้ำอมฤตมาให้กับพระองค์ให้ได้
219 ปีก่อนคริสตกาล สวี่ฝู๋เดินทางไปทะเลตะวันออก แต่เขาก็ไม่เจอกับน้ำอมฤตตามตำนานเล่าไว้ สวี่ฝู๋กลับมาเข้าเฝ้าจิ๋นซีฮ่องเต้โดยอ้างว่า เขาเจอกับสัตว์ประหลาดในทะเลทำให้ไม่สามารถไปถึงภูเขาเผิงไหลได้ จิ๋นซีฮ่องเต้ยังให้โอกาสกับสวี่ฝู๋ในการเดินทางอีกครั้ง
210 ปีก่อนคริสตกาล สวี่ฝู๋เดินทางออกทะเลอีกครั้ง และในครั้งนี้เขาก็สามารถขึ้นฝั่งได้สำเร็จ กล่าวกันว่าจุดที่สวี่ฝู๋มาถึง ก็คือบริเวณคาบสมุทรคิอิ (Kii Peninsula) บนเกาะฮนซูของญี่ปุ่น ใกล้ ๆ กับภูเขาไฟฟูจิ
ทว่าเมื่อสวี่ฝู๋ออกตามน้ำอมฤตอีกครั้ง เขาก็ไม่พบแต่อย่างใด สวี่ฝู๋กลัวความผิดเนื่องจากทำภารกิจที่จิ๋นซีฮ่องเต้มอบหมายไม่สำเร็จ เขาจึงตัดสินใจลงหลักปักฐาน ณ สถานที่แห่งนี้แทน สวี่ฝู๋ไม่ได้มาที่ดินแดนแห่งนี้แค่คนเดียว เพราะยังมีผู้ติดตามชายหญิงที่เป็นพรหมจรรย์อีก 3,000 ชีวิตเดินทางมากับเขาด้วย
ในเวลาต่อมา สวี่ฝู๋ได้ถ่ายทอดศิลปะวิทยาการรวมถึงการทำเกษตรให้กับคนพื้นเมือง ญี่ปุ่นรู้จักสวี่ฝู๋ในชื่อโจฟุกุ (Jofuku) เกิดเป็นทฤษฎีที่ว่า สวี่ฝู๋รวมถึงคนติดตามอีก 3,000 คนนี้ก็คือบรรพบุรุษของคนญี่ปุ่น นักวิชาการบางคนยังอ้างว่า ภายหลังสวี่ฝู๋กลายเป็นกษัตริย์ของคนพื้นเมือง และเขาอาจจะเป็นจิมมุ (Jimmu) จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็เป็นได้
เรื่องราวของสวี่ฝู๋ก็มีทั้งคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง หรือมีเค้าโครงจริงอยู่บ้าง เช่นกันก็มีคนบอกว่าเป็นแค่ตำนานเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากดูช่วงเวลาที่เชื่อว่า สวี่ฝู๋เดินทางมาถึงญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ในตอนนั้นญี่ปุ่นจะตรงกับยุคยาโยอิ (Yayoi Period) ที่เป็นช่วงที่เกิดวัฒนธรรมการทำเกษตร และเป็นยุคต่อจากวัฒนธรรมโจมงหรือยุคโจมง (Jomon Period) ที่มีวิถีชีวิตแบบล่าสัตว์หาของป่า
ดังนั้นหากมองให้อีกมุมนึง ตำนานสวี่ฝู๋อาจจะถูกใช้อธิบายการที่บรรพชนโบราณในญี่ปุ่นริเริ่มการทำเกษตรกรรมก็เป็นได้เช่นกัน