จิ้งจอกสาวเก้าหาง “จิวเหว่ยหู” ปีศาจสาวที่มีพลังในการดึงตัณหาจากจิตใจมนุษย์และเป็นต้นแบบตำนานและเครื่องรางสายมนต์เสน่ห์ นางเป็นปิศาจในเทพปกรณัมจีนซึ่งอาจ “ดีหรือร้ายก็ได้” แล้วแต่ตำนานแต่ละฉบับ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็คือสัญลักษณ์แห่งความเสน่หาและตัณหาราคะ
จีนเชื่อว่าสรรพสิ่งสามารถมีอำนาจวิเศษ มีชีวิตอมตะ และแปลงกายเป็นมนุษย์ได้หากได้บำเพ็ญตบะมานานพอสมควร และหนึ่งในนั้นคือ “ปิศาจจิ้งจอก” ซึ่งแท้ที่จริงก็คือสุนัข “จิ้งจอกเพศเมีย” ที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์หญิงสาวรูปโฉมงดงามได้
ในประเทศแถบเอเชียตะวันออก มีตำนานจิ้งจอกเก้าหางมากมายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แม้แต่ในประเทศจีนเองก็มีหลายเวอร์ชั่นที่เล่าขานไม่เหมือนกันแล้วแต่พื้นที่และยุคสมัย
หนึ่งในเรื่องที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือปิศาจจิ้งจอกเก้าหางในพงศาวดารของจีนชื่อว่า“ฮ่องสิน” ที่ได้กล่าวถึงปิศาจจิ้งจอกตนนี้ว่าเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ซาง เมื่อ “ฮ่องเต้อินโจว” หรือ “โจ้วหวาง” แห่งราชวงศ์ซาง ต้องการหานางสนมคู่กายที่มีหน้าตาเหมือนกับ “เจ้าแม่หนี่วา” นางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์
จนกระทั่งมาถูกพระทัยกับหญิงสาวนางหนึ่งที่ชื่อ “ต๋าจี่” ที่งดงามราวกับเป็นเทพธิดา ต๋าจี่นั้นเดิมทีเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่ชื่อ “ซูฮู่” แต่โชคร้ายที่เธอถูก “ปิศาจจิ้งจอก” สังหารตายแล้วโดนสิงร่างเพื่อสวมรอยแทน
ปิศาจจิ้งจอกในร่างของต๋าจี่ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นนางสนมเอก คอยปรนนิบัติพัดวีจนทำให้ฮ่องเต้อินโจวไม่เป็นอันว่าราชการ นางคอยประจบแล้วเป่าหูต่างๆ นานา รวมทั้งสั่งให้มีงานเลี้ยงในวังหลวงทุกวัน สั่งให้สร้างหอคอยดูดาว โดยใช้เงินจากการขูดรีดภาษีประชาชนมาเป็นทุนสร้าง จนเกิดความอดอยากไปทั่วแผ่นดิน อีกทั้งยังเกณฑ์ไพร่ฟ้าประชาชนมาเป็นแรงงานในการสร้างหอคอยจนมีผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก หากขุนนางคนใดคัดค้านก็จะถูกนางยุแยงให้ฮ่องเต้ประหารชีวิตไปเสียทุกราย
ความรู้ถึงแดนสวรรค์ จึงได้มีบัญชาให้ “เจียงจื่อหยา” ผู้ฝึกวิชาบำเพ็ญตบะบนเขาคุนหลุนลงไปปราบเจ้าปิศาจร้ายตนนี้แล้วช่วยสำนักราชวงศ์ซาง ทว่าการปราบต๋าจี่กลายเป็นการนำมาซึ่งการต่อสู้และความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์และกับเทพบนสรวงสวรรค์ครั้งใหญ่ที่สุด
สงครามของฝั่งมนุษย์นำโดยเจียงจื่อหยาที่มี “นาจา” เป็นศิษย์เอก รวมถึงอดีตขุนนาง“จีซาง” อดีตเจ้าเมืองที่เป็นขุนนางราชวงศ์ซาง ที่เคยถูกต๋าจี่เล่นเกมการเมืองจนต้องสูญเสียตำแหน่งไป พวกเขารวบรวมเอาขุนศึกมากมายเข้าก่อการปฏิวัติในครั้งนี้ โดยฝ่ายของฮ่องเต้อินโจวนั้นมีต๋าจี่เป็นผู้ชักนำรวมไปถึงเหล่าขุนนางกังฉินที่ฝักใฝ่ในลาภยศมากกว่าความทุกข์ยากของแผ่นดิน
สำหรับสงครามของฝ่ายเทพนั้น แม้ต๋าจี่จะมีเทพที่เป็นพรรคพวกมากมาย แต่ความร้ายกาจของนางทำให้เทพจำนวนหนึ่งไม่อาจอยู่เฉยได้ จนต้องเข้าร่วมทำสงครามด้วย
เรื่องราวจบลงตรงที่ต๋าจี่ได้หลบหนีไปจากจีน ส่วนฮ่องเต้อินโจวก็สูญเสียอำนาจลง พระองค์รู้สึกผิดต่อการกระทำที่ผ่านมาของตนจึงทำการปลิดชีพด้วยการเผาตัวตายที่หอคอยดูดาว ราชวงศ์ซางจึงถึงคราวสิ้นสุดลง ก่อนที่จะมีการสถาปนา “ราชวงศ์โจว” หรือ “ราชวงศ์จิว” ในรัชสมัยต่อมา
ส่วนสาเหตุที่ปิศาจจิ้งจอกมาทำให้บ้านเมืองของราชวงศ์ซางต้องเสื่อมลงถึงขนาดนี้ เป็นเพราะครั้งหนึ่งฮ่องเต้อินโจวเคยล่วงเกินเจ้าแม่หนี่วาผู้เป็นเทพแห่งสวรรค์ ในระหว่างการสักการะที่วัดแห่งหนึ่ง เจ้าแม่หนี่วาโกรธแค้นจึงได้ส่งปิศาจจิ้งจอกตนนี้มาเพื่อสังหารฮ่องเต้อินโจวจนกลายเป็นสาเหตุทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
และฮ่องเต้อินโจวก็ได้กลายเป็นทรราชย์ที่ถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์ของจีน แต่ข้อมูลในส่วนนี้นักวิชาการยังไม่ยืนยันว่าเท็จจริงหรือไม่เพียงใด