สถานที่ที่มีคนจำนวนมากอยู่รวมตัวกัน บรรยากาศมีความพลุกพล่าน มีชีวิตชีวา ในภาษาจีนมีการเปรียบเปรยเป็นสำนวนจีนว่า “门庭若市” หากแปลตรงตัวจะหมายความว่า ประตูบ้านเหมือนตลาด เป็นการเปรียบเปรยว่าได้บรรยากาศรอบๆ ตัวมีความคึกคักมากและมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งสำนวนนี้จะใช้กับบรรยากาศของสถานที่ บ้าน หรือธุรกิจก็ได้
มีเรื่องเล่าอยู่ว่าในช่วงยุคสงครามระหว่างรัฐ มีแพทย์คนหนึ่งชื่อ โจวจี้ เป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลา เช้าวันหนึ่งใส่ชุดและหมวก มองไปที่กระจกแล้วถามภรรยาว่า ตัวเขากับนายซูที่ทางเหนือ ใครหล่อกว่ากัน แน่นอนว่าภรรยาต้องตอบว่าโจวจี้หล่อที่สุด นอกจากนี้เขายังถามคนอีกหลายคน ซึ่งพวกเขาต่างก็ตอบว่าโจวจี้หล่อที่สุด
หลายวันต่อมาโจวจี้ไปเยี่ยมบ้านนายซูและได้สังเกตเห็นแล้วว่านายซูหล่อกว่าตัวเอง จึงคิดว่าที่คนอื่นบอกว่าเขาหล่อเพราะความชอบ ความกลัวหรือหวังผลประโยชน์ เขามีความคิดขึ้นมาว่า เช่นนั้นในฐานะกษัตริย์คงต้องถูกหลอกมากกว่านี้ จึงทูลให้กษัตริย์เว่ยทราบถึงเหตุการณ์ที่ประสบมาและแนะนำว่ากษัตริย์ต้องติดต่อกับผู้คนมากมาย การหลอกลวงก็ต้องยิ่งใหญ่กว่าแน่นอน หากสามารถรับฟังความเห็นได้อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากขึ้น กษัตริย์เห็นด้วยจึงออกคำสั่งให้ใครก็ตามที่ชี้ความผิดของเขาได้จะได้รางวัล ใครที่เขียนแนะนำก็จะได้รางวัล ใครที่พูดถึงความผิดพลาดที่ราชสำนักหรือตลาดก็ได้รางวัล
ตั้งแต่นั้นมาขุนนางก็มาประท้วง ประชาชนก็หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ทางเข้าราชสำนักก็คึกคักเหมือนตลาดทุกวัน
Credit From: https://thit.link/etB4kMP